10 เทคนิคการพูดภาษาให้เก่งเหมือนเจ้าของภาษา

เก่งภาษากับเคล็ดลับง่ายๆ

พูดภาษาอย่างมั่นใจกับเทคนิคการฝึกฝนด้วยตนเองที่บ้าน

สิงหาคม 2565

การเรียนรู้ภาษาใหม่ๆ เป็นเรื่องที่ท้าทาย ชวนงง และยาก สำหรับคนส่วนใหญ่แล้ว การที่จะพูดแต่ละภาษาให้เก่งมากๆ ให้ได้ใกล้เคียงกับเจ้าของภาษาที่สุดนั้นถือเป็นเรื่องที่ยากจริงๆ แต่ก็เป็นสิ่งที่ทุกคนใฝ่ฝันมากที่สุด ทุกคนคิดว่ามีเหตุผลอะไรที่ทำให้เราคิดกันแบบนี้

แน่นอนว่าประการแรกเลยคือ หลายคนคิดว่าเป็นไปไม่ได้ที่จะฝึกพูดภาษาใหม่ๆด้วยตนเอง โดยไม่ได้นึกว่า ยังมีเคล็ดลับและเทคนิคมากมายที่ซ่อนอยู่ .ซึ่งเราสามารถนำมาใช้เพื่อพัฒนาทักษะการพูดภาษาให้ดีขึ้นได้ด้วยตัวเอง

ประการที่สอง เวลาที่เราพูดภาษา เราไม่มีเวลามากพอในการคิดว่าจะพูดอะไร และ พูดอย่างไร โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเทียบกับเวลาที่เราเขียนภาษาเดียวกัน แล้วจะทำอย่างไรดี

ดังนั้นเพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลา มาดู 10 วิธีที่ดีที่สุดในการพูดภาษาให้คล่องขึ้นกันดีกว่า

Modulo students saying hello in many languages
ใครรู้บ้างว่าเราสามารถฝึกพูดภาษาได้แม้ว่าเราจะอยู่ที่บ้าน

1. อ่านให้เสียงออกมาดังๆ

ลองเปลี่ยนจากการอ่านและการเขียนมาเป็นการพูดภาษา แทนที่จะเขียนอีเมล์หรือส่งข้อความเฉยๆ ลองพูดออกมาดังๆ อย่าไปกลัวว่าจะออกเสียงผิดหรือพูดผิด พยายามเลียนแบบสำเนียงและการออกเสียงให้ใกล้เคียงกับเจ้าของภาษามากที่สุด การทำแบบนี้จะช่วยให้สมองของเราจดจำการพูดภาษาไปโดยอัตโนมัติ ซึ่งจะดีกว่าการพูดภาษาแบบคิดเป็นคำต่อคำอย่างที่เราเคยทำกัน ซึ่งการที่จะให้เราพูดโต้ตอบได้อย่างเป็นธรรมชาติ หนทางเดียวก็คือ ฝึกพูด ฝึกพูด และฝึกพูด และเมื่อเราได้มีโอกาสพูดคุยในบทสนทนาของจริง คำศัพท์และไวยากรณ์ที่ฝึกใช้มานั้นจะเข้ามาอยู่ในคำพูดของเราอย่างไหลลื่น ความมั่นใจก็จะตามมา ก็จะยิ่งช่วยพัฒนาศักยภาพการพูดภาษาให้เก่งขึ้นไปอีก

2. คิดด้วยภาษาที่เราอยากเก่ง

ทุกคนรู้ดีว่าการคิดเป็นภาษาที่เราฝึกอยู่นั้น คือสิ่งที่จะช่วยให้เราเก่งภาษาได้เร็ว แต่เวลาที่เราพูดแบบนี้ก็มักจะง่ายกว่าการลงมือทำจริงเสมอ ลองเริ่มต้นง่ายๆจากสิ่งรอบๆตัว เช่น เวลาที่เรากำลังขึ้นรถไฟฟ้าไปทำงาน ลองแต่งเรื่องง่ายๆ ในหัวโดยใช้ภาษานั้นๆ จากการสังเกตผู้คนรอบตัว เช่น คนกลุ่มนี้มาด้วยกัน พวกเขากำลังจะไปไหนนะ พวกเขาน่าจะทำงานอาชีพอะไร ลักษณะท่าทางเป็นอย่างไร ผู้หญิงคนนี้กำลังจะไปเล่นกีฬาที่ไหน เป็นต้น แน่นอนว่าเราจะไม่สามารถพูดภาษาที่เราเรียนในระดับเจ้าของภาษาได้เลย ถ้าเรายังทำแบบเดิมๆ คือ คิดโดยใช้ภาษาไทย แล้วก็ค่อยแปลออกมาเป็นภาษาที่เรากำลังฝึกอีกที เหมือนที่หลายๆคนกำลังทำอยู่

3. ดูหนังด้วยเสียงภาษาต้นฉบับที่มีคำอธิบายใต้ภาพ ไม่ใช่เสียงพากย์

การอ่านคำบรรยายใต้ภาพอาจจะทำให้ดูน่าเบื่อและดูหนังสนุกน้อยลง แต่ก็มีประโยชน์มหาศาลในการช่วยให้เราได้ฝึกฟังสำเนียงภาษาจากเจ้าของภาษาตัวจริง รวมถึงการออกเสียงอย่างเป็นธรรมชาติ

เราขอแนะนำ 3 ขั้นตอนง่ายๆ เพื่อช่วยพัฒนาทักษะการพูดระหว่างดูหนังหรือซีรีส์ต่างประเทศ

  1. ดูหนังรอบแรก ให้อ่านคำบรรยายใต้ภาพเป็นภาษาไทย หากได้ยินคำศัพท์หรือประโยคที่ไม่เข้าใจ ให้จดบันทึกเอาไว้สำหรับการดูในรอบต่อไป
  2. เปิดดูหนังเรื่องเดิมอีกครั้ง แต่ใช้คำบรรยายใต้ภาพเป็นภาษาที่เราต้องการเรียนรู้ ถ้าได้ยินอะไรที่น่าสนใจและคิดว่าอยากจะเอามาพูด ก็ให้กดหยุดเอาไว้แล้วพยายามฝึกออกเสียงคำศัพท์หรือประโยคเหล่านั้นด้วยสำเนียงที่ใกล้เคียงกับในหนังให้มากที่สุด
  3. เปิดหนังเรื่องเดิมรอบสุดท้าย โดยไม่ต้องมีคำบรรยายใต้ภาพ เราอาจจะไม่เข้าใจทั้งหมด แต่เชื่อได้เลยว่า วิธีนี้จะช่วยทำให้เราได้พัฒนาทักษะภาษาขึ้นไปอีกขั้นอย่างแน่นอน

register for TOEIC
จิบกาแฟอร่อยๆ พร้อมๆกับนั่งดูหนังที่ชอบได้เลย!

4. เลียนแบบและลองแสดงบทบาท

เมื่อได้ฟังตัวละครในหนังพูดบทสนทนาแล้ว ลองพยายามพูดตามนักแสดงในหนัง ทำแบบนกแก้วนกขุนทองไปพร้อมๆ กันโดยเน้นที่สำเนียง อารมณ์ ความรู้สึก เป็นหลัก เมื่อเราฝึกบ่อยๆ จนรู้สึกคุ้นชิน สำเนียงของเราจะเริ่มแข็งแรงและใกล้เคียงกับเจ้าของภาษามากขึ้นโดยไม่รู้ตัว

5. ฟังเพลงท้องถิ่นและเรียนรู้เนื้อเพลง

ดนตรีทำให้เราสนุกและยังช่วยเชื่อมโยงให้เข้ากับวัฒนธรรมของภาษาที่เรากำลังศึกษา โดยที่ไม่จำเป็นเลยว่า เราจะต้องมีพรสวรรค์ทางด้านดนตรีแต่อย่างใด ขอแค่เราฟังเพลงและปล่อยใจไปกับคำศัพท์ ลองค้นหาเนื้อเพลงที่เราชอบแล้วฝึกร้องตาม คำแต่ละคำที่เราร้องจะไหลลื่นอย่างเป็นธรรมชาติ และเราก็จะสามารถออกเสียงตามได้อย่างถูกต้องเวลาที่เราร้องเพลง

6. ฟังวิทยุหรือพอดแคสต์

สำหรับเทคนิคข้อนี้ก็จะคล้ายกับการดูหนังและฟังเพลง คืออยากให้เราไปลองฟังรายการวิทยุหรือ พอดแคสต์ในภาษาที่เราสนใจ โดยเฉพาะรายการข่าว ซึ่งเราจะได้เรียนรู้คำศัพท์และบทสนทนาได้อย่างรวดเร็วอย่างเหลือเชื่อมาก ยิ่งถ้าเราลองแกล้งสวมบทบาทเป็นพิธีกรหรือผู้ประกาศข่าวแล้วเลียนแบบวิธีการพูดของพวกเขาด้วยก็จะยิ่งได้ผลเร็วขึ้นไปอีก

7. พูดกับตัวเอง

การฝึกพูดกับตัวเองหน้ากระจกหรืออัดเสียงพูดของเราเองในโทรศัพท์ ด้วยภาษาที่เราต้องการเรียนรู้ทุกวัน จะช่วยให้เราได้รู้ข้อผิดพลาดของตัวเองอย่างชัดเจน คนที่ฝึกภาษามักจะมองเห็นความผิดพลาดได้ดีกว่าความถูกต้องอยู่แล้ว ยิ่งถ้าเราได้เห็นข้อผิดพลาดของตัวเองแล้วกลับไปฝึกฝนมากเท่าไรก็จะยิ่งทำให้เราพัฒนาทักษะการพูดภาษาของเราได้เร็วมากขึ้นเท่านั้น นอกจากนี้ การฝึกทักษะการพูดด้วยการลองพูดประโยคหรือชุดคำศัพท์ที่ออกเสียงยากๆ ก็จะช่วยให้การพูดภาษาของเราดีขึ้นทั้งจังหวะความเร็วและความชัดเจน เช่น

“How much wood would a woodchuck chuck if a woodchuck could chuck wood? He would chuck, he would, as much as he could, and chuck as much wood as a woodchuck would if a woodchuck could chuck wood”

register for TOEIC
อาจจะรู้สึกแปลกตอนแรกๆ แต่ลองฝึกพูดหน้ากระจกกันหน่อยน่าจะดี

8. ฝึกพูดกับเพื่อนหรือครอบครัว

เพื่อน”เป็นตัวช่วยสำคัญในการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ เป็นวิธีที่ง่ายที่สุดในการที่เราจะได้เรียนรู้คำศัพย์แสลง น้ำเสียง โทนเสียง และกิริยาท่าทางการแสดงออกต่างๆเวลาที่พูดภาษานั้นๆ เรามาลองหาคู่หูสักคนมาร่วมเรียนภาษาใหม่ๆด้วยกัน อย่าลืมว่า ต้องมีการวางแผนและตั้งเป้าหมายให้ชัดเจน เพื่อจะได้พูดภาษาได้เก่งให้ใกล้เคียงกับเจ้าของภาษาให้มากที่สุด เช่น กำหนดเลยว่าเราจะพูดภาษานี้ด้วยกันกับเพื่อนหรือคนในครอบครัว เป็นเวลา 30 นาทีต่อวัน ทุกวัน โดยที่ในช่วงเวลานี้ จะต้องไม่พูดภาษาไทยเลยโดยเด็ดขาด

9. พูดคุยกับเจ้าของภาษา

เพื่อนอาจจะเป็นตัวช่วยที่ดีในการฝึกภาษาด้วยกัน แต่ที่สุดแล้วก็ไม่สามารถมาเทียบกับการเรียนภาษากับคุณครูเจ้าของภาษาตัวจริงได้ ที่โมดูโล่ เรามีครูชาวต่างชาติเจ้าของภาษาจากทั่วทุกมุมโลก ที่มีคุณสมบัติ มากประสบการณ์ และเชี่ยวชาญในการสอนภาษาเป็นอย่างดี ซึ่งคุณครูจะช่วยทำให้นักเรียนทุกคนสนุกกับการเรียนภาษา และเก่งภาษาขึ้นได้อย่างรวดเร็ว

10. เดินทางท่องเที่ยวต่างประเทศ และลองพูดภาษาด้วยตัวเอง

อีกหนึ่งในวิธีที่ดีที่สุดสำหรับการฝึกภาษาคือ การใช้ชีวิตในประเทศที่พูดภาษานั้นๆ ซึ่งแน่นอนว่าการที่เราจะย้ายไปอยู่ในต่างประเทศก็ไม่ใช่เรื่องง่ายและเป็นไปได้ยาก แต่เราก็ยังมีวันหยุดพักผ่อน ที่พอจะลาไปเที่ยวต่างประเทศได้บ้าง จริงไหม การได้ท่องเที่ยวและเดินทางไปยังต่างบ้านต่างเมืองนี้ เราจะได้ใช้ภาษากับประสบการณ์จริง ได้คุยกับเจ้าของภาษาตัวเป็นๆ ที่ส่วนใหญ่ก็พร้อมที่จะทำความเข้าใจกับภาษาที่เราพูด และถ้าคุณชอบผจญภัย โฮสเทลคือสถานที่ที่เหมาะจะได้พบเจอผู้คนใหม่ๆ ที่จะได้ใช้เวลาพูดคุยแลกเปลี่ยนเรียนรู้เรื่องราวชีวิตของแต่ละคน

เราไม่จำเป็นต้องเป็นอัจฉริยะเพื่อที่จะพูดภาษาต่างประเทศได้อย่างคล่องแคล่ว ขอแค่เราสละเวลาทุ่มเทฝึกฝนอย่างสม่ำเสมอ ลองทำตามให้ครบทั้ง 10 เทคนิคนี้ เชื่อได้เลยว่า ทักษะการพูดภาษาของทุกคนจะไปถึงเป้าหมายที่ตั้งใจไว้อย่างแน่นอน อย่าถอยง่ายๆ หรือหยุดที่จะเรียนรู้นะครับ

Bryan P

August 2565